กรณีศึกษาระบบบริหารจัดการคลังสินค้าด้วย RFID

กรณีศึกษานี้เป็นอุตสาหกรรมการผลิตกระเบื้องแห่งหนึ่งที่พบปัญหาในการบริหารจัดการคลังสินค้ามาอย่างยาวนานได้แก่

• ข้อมูลสินค้าที่ส่งเข้าคลังสินค้าไม่ถูกต้อง ตั้งแต่ขั้นตอนการรับ, จัดเก็บ, และกระจายสินค้า
• ข้อมูลสินค้าที่จัดเก็บตาม Location ไม่ถูกต้องตรงตามตำแหน่งจัดเก็บจริง ทำให้เกิดปัญหาการหาสินค้าไม่พบและล่าช้า
• การตรวจสอบนับสต้อคมีปริมาณมาก ใช้กำลังพลมาก และมี error ต้องตรวจนับซ้ำ
• พื้นที่จัดเก็บสินค้ากว้างและกระจายหลายจุด (ในและนอกอาคาร) ใช้รถฟอร์คลิฟต์, พลังงาน, กำลังพล ในการจัดเก็บและเคลื่อนย้ายสินค้าสูง
• ใช้เวลาในการปฏิบัติงานแต่ละจุดค่อนข้างมาก และต้องเสียเวลาในการหาสินค้านาน
• ความล่าช้าในการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้า จากเงื่อนไขการขนส่งสินค้าขึ้นรถขนส่ง ตามเขตพื้นที่ และยังใช้ระบบ Manual

 จากปัญหาดังกล่าวทำให้ทีมงานทำการวิเคราะห์กิจกรรมการดำเนินงานและออกแบบระบบที่เหมาะสมกับกิจกรรมในคลังสินค้าของบริษัทฯ ดังกล่าว

จากภาพจะเห็นแผนผังการเชื่อมต่อของระบบซึ่งทั้งหมดประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่

1. ชุดอุปกรณ์ RFID สำหรับติดตั้งบนรถ Forklift เราเลือกใช้งานเป็น Impinj UHF RFID Speedway reader R220 เนื่องจาก Speedway reader มีฟังก์ชั่นพิเศษในการหลบหลีกการรบกวนของสัญญานได้ดี ซึ่งเหมาะสมกับการใช้งานภายในคลังสินค้าที่มี Facilities เป็นจำนวนมากติดตั้งร่วมกับ Impinj Threshold Antenna เสาอากาศลักษณะพิเศษที่สามารถจำกัดวงในการปล่อยคลื่นสัญญานออกไปได้และมีประสิทธิภาพในการอ่านสูง

2. ฉลาก RFID สำหรับติดตั้งกับ pallet และ ฝังพื้นเพื่อกำหนดโลเคชั่น โดย RFID tag ที่ใช้งานสำหรับติดตั้งกับ Pallet จะใช้งานเป็น RFID UHF Hang tag ซึ่งเป็น RFID tag ที่สามารถนำกลับมาใช้งานติดตั้งใหม่ได้ เนื่องจากถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับการห้อยแขวน หรือยึดติดกับ Pallet ได้ ในส่วนของ RFID tag ที่ใช้สำหรับฝังพื้นเลือกใช้เป็น RFID UHF IronTrak ที่มีความทนทานสูงสามารถฝังพื้นได้

3. อุปกรณ์สำหรับแสดงผลตำแหน่งจัดเก็บ RFID UHF Handheld และซอฟต์แวร์ WMS อุปกรณ์ Vehicle Computer จะต้องเป็นเกรดอุตสาหกรรมป้องกันการสั่นสะเทือนได้ ซึ่งอุปกรณ์ที่สามารถตอบโจทย์ได้ คือ P80 Rugged Tablet ซึ่งเป็น Industrial Tablet เหมาะสำหรับใช้งานในอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ ในส่วนของ Handheld reader เลือกใช้เป็น RFID UHF Handheld Denso SP-1 ร่วมกับ BHT-1800 เพื่อใช้งานในกระบวนการรับของเข้า

ประโยชน์จากการใช้งานระบบ RFID ในคลังสินค้า

• สามารถลดสัดส่วนต้นทุนต่อยอดขายจาก 2% เป็น 1.7%
• ลดระยะเวลาการดำเนินงานการปล่อยสินค้าตั้งแต่การผลิตจนถึงการจัดส่งจาก 46 วันเหลือ 42 วัน
• เพิ่มอัตราความแม่นยำของสินค้าคงคลังจาก 97% เป็น 100%
• สามารถลดระยะเวลาในการตรวจนับ Stock สินค้าภายในคลังที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
• สามารถลดค่าใช้จ่ายได้สูงสุดคิดเป็นจำนวนเงิน 6,600,000 บาท/ปี
• ลดจำนวนพนักงานได้ 8คน/1กะ จากเดิมที่ใช้พนักงาน 26คน/1กะ เหลือเพียง 18คน/1กะ
• ลดจำนวน Forklift ที่ปฏิบัติงานได้ 6 คัน จากเดินที่ใช้ Forklift ทั้งหมด 21 คัน ลดลงเหลือ 15 คัน
• ลดค่าใช้จ่ายจากผลการลดจำนวนพนักงานและผลการลดจำนวนรถ Forklift ในคลังสินค้า คำนวณเป็นค่าใช้จ่ายที่สามารถลดได้ขั้นต่ำเดือนละ 500,000 บาท